แช่น้ำแร่กลางหุบเขา รีวิวโรงแรม ออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม, เชียงใหม่
มีโอกาสเห็นโรงแรม Onsen @ Moncham มานานมากๆ เอาจริงๆก็เชื่อว่าทุกคนก็มีคำถามในใจ ว่าทำไมเราต้องไปนอนโรงแรมที่ดูเหมือนญี่ปุ่นในจังหวัดเชียงใหม่? ล่าสุดผมมีโอกาสไปพักที่นี่มาและมีคำตอบที่หลายคนเคยสงสัยครับ
โรงแรม Onsen @ Moncham อยู่ในอ.แม่ริม เชียงใหม่ โดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร ทำให้อากาศบนนี้โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงกลางคืนอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยโรงแรมได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆและหล
งวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นในประเทศญี่ปุ่น
ทำไมถึงต้องออนเซ็นที่เชียงใหม่?
เป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจเหมือนกัน จนระหว่างที่ขับรถมายังโรงแรม ระหว่างทางเราได้เห็นป้ายขนาดใหญ่ของน้ำแร่แบรนด์ชื่อดังจึงทำให้รู้ว่า แม่ริม มีน้ำแร่ที่มีคุณสมบัติที่ดีเต็มไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ เป็นน้ำแร่คุณภาพดีอันดับต้นๆในเมืองไทย ตอนนี้เลยเข้าใจว่าทำไม เค้าถึงอยากนำเสนอโรงแรมในแบบญี่ปุ่น นั่นก็เพื่อการนำเสนอของดีของท้องถิ่นนั่นเอง
ตั้งแต่ก้าวแรกคือ ว้าวมากๆ ตั้งแต่จอดรถและเห็นประตูทางเข้าจนเดินมาทำการเช็คอิน ได้ฟิลของญี่ปุ่นสุดๆ ทั้งการตกแต่ง การพูดจาอย่างสุภาพของพนักงาน มี Service DNA จากญี่ปุ่นสุดๆ
ที่ Onsen @ Moncham มีห้องพักเพียง 24 ห้องเท่านั้น และมี Roomtype ดังนี้ Grand Mountain View, Grand Terrace Suite, Grand Terrace Suite with Outdoor Onsen, Majestic Family, Imperial Onsen Suite, Grand Tatami Onsen Suite, Imperial Tatami Onsen Suite, Grand Imperial Onsen Suite, One Bedroom Emperor Suite, One Bedroom Royal Residence, Two Bedroom Grand Mountain View, Two Bedroom Grand Terrace Suite, Two Bedroom Imperial Onsen Suite, Two Bedroom Royal Residence, Two Bedroom Emperor Suite, Three Bedroom Imperial Onsen Suite, Three Bedroom Emperor Suite, Four Bedroom Emperor Suite แนะนำให้เพื่อนๆลองเข้าไปดูความแตกต่างจากเว็บไซต์โรงแรมครับ
เห็นห้อง Roomtype เยอะขนาดนี้ นี่คือเหตุผลที่เวลาเราทำการจองเจ้าหน้าที่เค้าค่อนข้างใส่ใจ สอบถามเราอย่างละเอียด เพื่อที่จะให้คำแนะนำและเลือกห้องที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด
โรงแรม Onsen @ Moncham ออกแบบโดย คุณกฤษฎา โรจนกร ศิลปินแห่งชาติด้านสาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) ซึ่งมีผลงานการออกแบบโรงแรมชื่อดังในประเทศไทยมากมาย และโรงแรมนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปราสาทคัทซึระ อิมพีเรียล จากเมืองเกียวโต
ทุกห้องในโรงแรม จะเป็นชื่อเมืองต่างๆในประเทศญี่ปุ่นครับ
ห้องของเราเป็นห้องแบบ Imperial Tatami Onsen Suite โดยเป็นที่นอนแบบ 布団 ฟุตงที่นอนแบบญี่ปุ่น
ห้องสวยได้ฟิลญี่ปุ่นมากๆ โดยเข้ามาก็จะเจอกับโซนโต๊ะนั่งสบายๆ ด้านขวาจะแบ่งเป็นอีกห้องนึงเป็นแนวลึกมีทั้งออนเซ็น โซนแต่งตัว และเป็นห้องน้ำ ซึ่งสุขภัณฑ์จะทันสมัยแบบญี่ปุ่นเลย
หลังจากเราเข้าถึงห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ พักผ่อนสักพัก ก็มีน้องพนักงานมากดกริ่งขออนุญาต เข้ามาทำการเตรียมของว่างให้ เป็นชาและขนมญี่ปุ่นต่างๆ โดยชาวันนี้เป็น Gyokuro Genmaicha ชาเขียวข้าวคั่วญี่ปุ่นเกรดคัดพิเศษจากจังหวัดทางคิวชูให้รสชาติที่หอมข้าวคั่ว นุ่มนวล
ตอนที่น้องมากดกริ่ง เค้าใส่ตะกร้าสะพายหลังมา คล้ายชาวเขาน่ารักมาก
ตอนเช็คอินพี่พนักงานได้เล่าให้ฟังว่า Onsen @ Moncham ที่นี่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก โรงแรมมีพนักงานมาจากหลายแห่ง มีทั้งน้องๆในชุมชนรอบๆ มีคนจากทั้งอีสานและภาคใต้ และมีพนักงานหลายคนที่อยู่มาตั้งแต่วันที่เปิดโรงแรมในวันแรกจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเจอน้องคนที่นำชาและขนมมาให้ ผมสัมผัสได้ถึง ' หัวใจของการบริการ ' ที่รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่ารักมากๆครับ
ในห้องยังมี ข้อมูลโรงแรมทำมาในรูปแบบหนังสือพิมพ์ที่สอดแทรกความรู้วัฒนธรรมของญี่ปุ่นต่างๆ เช่น การกล่าวขอบคุณก่อนและหลังรับประทานอาหาร,การใช้ตะเกียบแบบญี่ปุ่น,การดื่มชาหลังอาหาร เชื่อว่าหลายคนแล้วอ่านจะอิน การพักผ่อนในทริปนี้มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ในส่วนของห้อง สิ่งที่เราจะลืมเล่าไม่ได้คือเรื่องห้องน้ำครับ ซึ่งห้องพักมีบ่อออนเซ็นส่วนตัวในห้อง ขนาดกำลังดี สามารถลงแช่ 2 คนได้พร้อมกัน เราสามารถเลื่อนบานประตูเพื่อเปิดโล่งเชื่อมต่อกับสวนเล็กๆหน้าห้องได้ด้วย ช่วงเช้าจะเป็นที่ช่วงแสงเข้าหน้าห้องและอากาศเย็น น่าจะเป็นช่วงเวลาที่แช่น้ำแล้วรู้สึกดีๆพอๆกับช่วงกลางคืนครับ
ผมแอบชอบส่วนของ Space หน้าห้องที่เป็นสวนเล็กๆ มีที่นั่งด้านนอก เราสามารถนั่งมองวิวภูเขาได้ อยู่ที่นี่รู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง
โรงแรมไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่โรงแรมเค้าจัดสวนออกมาได้สวยเลย มีทางเส้นทางเดินไปมุมต่างๆที่บรรยากาศดูคล้ายญี่ปุ่นจริงๆ มีบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยเป็ด น้องที่นี่เป็นเป็ดแมลลาร์ดตัวสีเขียวสวยมากๆ และยังมีหงส์ขาวและหงส์ดำ ผมนเพลินมากกับการนั่งดูหงส์ว่ายน้ำไปมาแทบจะไม่ได้จับโทรศัพท์เลยเพลิน
ภายในโรงแรมยังมีต้นสนเกรวิลเลีย มีที่นั่งดูวิวพระอาทิตย์ตกใต้ต้นสน แสงส่องเข้าเป็นมุมที่สวยพอดี มานอนที่นี่ทั้งที อย่าลืมใส่ชุดออกมานั่งรับบรรยากาศดีๆถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันนะครับ
มีการปลูกสวนผัก (ไร้สารพิษ )เพื่อนำมาใช้ประกอบอาหารสำหรับแขกผู้มาเข้าพักที่นี่ด้วย และยังสนับสนุนผักผลไม้ จากเพื่อนบ้านและโครงการหลวงอีกด้วย
มาถึงอีกหนึ่ง Highlight ของที่นี่คือห้องอาหารญี่ปุ่นของโรงแรม Onsen @ Moncham โดยห้องอาหารมีชื่อว่า Mi Zu โดยเชฟของห้องอาหารได้รับการอบรมโดยตรงจาก Sensei Haruaki Matsuoka เชฟชื่อดังชาวญี่ปุ่นจากสถาบัน Tsuji Culinary Institute ซึ่งเชฟได้เรียนรู้การเตรียมวัตถุดิบ การทำอาหาร เทคนิคพิเศษรวมไปถึงกรรมวิธีการปรุงอาหารขั้นสูง เพื่อมาบริการให้แก่ลูกค้าที่เข้าพักที่นี่ได้ทานอาหารที่ดีที่สุด
ห้องอาหารเป็นลักษณะ 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นห้องอาหารแบบ All Day เปิดบริการตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงกลางคืน โดยห้องอาหารตกแต่งอย่างสวยงาม ในช่วงกลางคืนอากาศหนาวเย็นสบายแบบไม่ต้องเปิดแอร์เลย ส่วนชั้นบนเป็นห้องสาเก ที่รวมสาเก ไวน์ แชมเปญชั้นดีมากมายให้เราได้เลือกดื่ม
มาดูเมนูอาหารที่ผมได้ทานในคืนนี้กันครับ
เริ่มต้นด้วยซูชิเซ็ต Take Bento โดยประกอบด้วย
Sashimi : Hamachi, Salmon, Maguro
Sushi : Izumidai, Ika, Ebi, Ebiko, Kappa
Toko Wasabi, Chawanmushi
แอบเซอร์ไพร์สเหมือนกันนะครับ ว่าบนม่อนแจ่มนี้ไม่น่าจะมีร้านอาหารญี่ปุ่น การรักษาอาหารญี่ปุ่นให้สดใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ซูชิที่นี่ค่อนข้างสด อร่อยดีครับ ตัวไข่ตุ๋นก็อร่อย
และอยากให้เพื่อนๆได้เลื่อนดูรูปสุดท้าย ผมสั่งเป็น Sukiyaki เซ็ตเนื้อวากิว เนื้อสีและลายน่าทานมากๆเลยครับ
จำน้องคนนี้ได้ไหมครับ ที่เข้าไปชงชาให้ในห้อง น้องยังตามมาบริการช่วยทำ Sukiyaki ให้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
01 นำมันเนื้อลงในกะทะ โดยนำมาจี่ให้ทั่วกะทะ
02 ใส่เนื้อลงไปในกะทะ
03 ราดน้ำซอสวาริชิตะลงไปเล็กน้อย
04 ใส่ผักลงไป
เนื้อนุ่มมากๆครับ ทานกับไข่แดงและได้ความหวานเค็มจากซอส
อร่อยจนต้องสั่งข้าวเพิ่มอีก 1 ที่เลย
และปิดท้ายด้วย Homemade Hokkaido Toast & Icecream ไอศกรีมนมฮอกไกโด ที่ด้านล่างเป็น Toast ร้อนๆ ราดด้วยน้ำเมเปิลและตัดเลี่ยนด้วยซอสยูซุและผลไม้สดๆที่มาจากม่อนแจ่ม
คืนนี้เราฟินกันมากๆครับ ด้วยอากาศเย็นๆในห้องอาหารมีจุดไฟให้อุ่นๆนิดนึงด้วย พร้อมกับการได้ทานอาหารอร่อยๆพูดคุยกันอย่างอรรถรส ทำให้แว่บนึงก็คิดถึงทริปต่างๆที่ผมมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นเลย คืนนี้นั่งดื่มกันยาวๆแต่ห้าทุ่มก็หลับแล้วครับ เพราะพรุ่งนี้เราอยากตื่นเช้ามาถ่ายรูปสวยๆกัน
ช่วงเช้าถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุดของที่นี่เลยครับ เราตื่นกันตั้งแต่เช้ามืดทันออกมาเห็นหมอก ( อากาศแอบหนาวเหมือนกันนะครับ ) ขอใส่ยูกาตะทนหนาวออกมาถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆกันสักหน่อย
อาหารเช้าที่นี่ก็มีให้เราเลือก 2 สไตล์ทั้งแบบอาหารฝรั่งและอาหารญี่ปุ่นครับ
โดยจะเป็นจานเดี่ยวเราสามารถสั่งเพิ่มได้เรื่อยๆจนอิ่มครับ
ด้วยที่โรงแรมไม่ได้มีจำนวนห้องเยอะมาก ทำให้การบริหารจัดการเรื่องอาหารเช้าโอเคเลย เราสามารถเลือกนั่งด้านในหรือด้านนอกก็ได้ พวกเรามา 3 คน เลยขอนั่งด้านในแล้วเดี๋ยวมื้อเที่ยวหลังเช็คเอาต์ เราจะไปนั่งชมวิวส่งท้ายด้านนอกกันครับ
มาถึง Highlight ที่เจ๋งที่สุดของโรงแรมนี้คือ ออนเซ็นครับ ซึ่งคนนอกก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้นะครับแต่เป็นช่วงเวลา ส่วนใหญ่จะ Reserve ให้ผู้เข้าพัก โดยภายในอาคารออนเซ็นจะแบ่งเป็น
บ่อออนเซ็นในสวนกลางแจ้งแบบไม่จำกัดเพศ ที่ต้องสวมใส่ชุดว่ายน้ำ - เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นครอบครัวครับ
ห้องออนเซ็นชาย
ห้องออนเซ็นหญิง
ผมนี่เป็นคนที่ชื่นชอบการแช่ออนเซ็นมากๆ โดยเฉพาะการไปเมืองหนาวในญี่ปุ่น ไปเล่นสโนวบอร์ด เวลาที่ได้แช่น้ำร้อนรู้สึกเหมือนได้พักผ่อน ฟินสุดๆ
มาดูบรรยากาศของบ่อออนเซ็นในสวนกันหน่อย คิดว่าที่นี่น่าจะเหมาะสำหรับช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็นครับ เพราะกลางวันบางครั้งอากาศก็อาจจะร้อนได้
มาในส่วนของห้องออนเซ็นแยกชายหญิงกันบ้าง เค้าทำออกมาได้เหมือนที่ญี่ปุ่นเลยนะ เมื่อเข้าไปจะมีตู้ลอกเกอร์ มีผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่และฝืนเล็กให้ครับ
ปกติการแช่ออนเซ็น เราจะควรลงด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า แต่สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นชิน เราสามารถขอชุดชั้นในพิเศษของทางโรงแรมได้ แต่ไม่ใส่ดีกว่าครับ คนน้อยเป็นส่วนตัวมากๆไม่ได้วุ่นวายแบบที่หลายคนคิด
เค้ามีขั้นตอนให้ทุกคนได้อ่านด้วย สามารถทำตามนี้ได้เลย
ปกติแล้วในห้องออนเซ็น จะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอนะครับ แต่ผมคิดว่าทุกคนที่กำลังอ่านอยู่ อยากเห็นแน่ๆว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้าง เลยลองขอติดต่อขออนุญาตทางโรงแรมเพื่อทำการถ่าย และหาช่วงเวลาที่ไม่รบกวนแขกท่านอื่นๆ บันทึกภาพภายในห้องมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน มาดูกันเลยครับ
หลังจากผ่านลอกเกอร์รูมาแล้ว ก็จะมาถึงห้องออนเซ็น ที่มีที่นั่งอาบน้ำจำนวนหนึ่ง มีบ่อกลาง Indoor ที่ขนาดกำลังดีและภายนอกยังมีบ่อใหญ่ และมีอ่างไม้น้ำเย็นให้แช่อีกด้วย หลังจากที่เราทำการอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยแล้ว ( ปรับอุณหภูมิเพื่อให้ร่างกายเริ่มชินกับความร้อน ) เราก็เริ่มแช่จากบ่อด้านใน ประมาณ 10-15 นาที นั่งมองสวนด้านนอกเพลินใจดี
หลังจากแช่บ่อในเสร็จแล้ว ให้นั่งพักดื่มน้ำสักนิดแล้วออกมาแช่ที่บ่อด้านนอกต่อ อีกประมาณ 10-15 นาที
และหลังจากนั้นให้ลง อ่างไม้เย็น ซึ่งน้ำเย็นมาก รู้สึกสดชื่นมากๆครับ
ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ผมมีโอกาสมาใช้บริการตรงนี้ 2 ครั้ง คนไม่ได้เยอะเลย และเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำบริการดีมากๆครับ รู้สึกว่าเค้าถูกเทรนมาให้ มี Service ในการให้ข้อมูลที่ดี หลายๆคนที่ไม่เคยออนเซ็นน่าจะเคอะเขิน แต่น้องเค้ามีวิธีการดูแลที่ดีมากๆ แช่ออนเซ็นเสร็จแล้ว ออกมานั่งจิบชาดูวิว มันรู้สึกดีมากๆ เลย
เราได้ทำการเช็คเอาต์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ แต่ด้วยที่เมื่อคืนมื้อเย็นอาหารอร่อยมากๆ เราเลยอยากจะทานข้าวอีกสักมื้อก่อนที่จะเดินทางไปที่อื่นต่อ
01 Tonkatsu
ข้าวหน้าหมูคุโรบุตะชุบแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมซอสทงคัตสึ ซุปมิโซะ
02 Katsutoji
ข้าวหน้าหมูคุโรบุตะทอด ตุ๋นด้วยไข่และซอสสูตรต้นตำรับ
03 Tempura Udon
อูด้ง เสิร์ฟพร้อมกุ้งเทมปุระและผักเทมปุระ
อยากบอกว่า ยังมีรูปอีกเยอะมากๆ แต่เกรงว่าจะลงเยอะไป ตั้งใจถ่ายมาเพราะ อยากให้เพื่อนๆได้อ่านและดูภาพเพื่อเป็นข้อมูลกัน ผมขอสรุปข้อมูลสั้นๆเกี่ยวกับโรงแรมดังนี้ครับ
เมื่อได้มาฟังแนวคิดและความตั้งใจของโรงแรม ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองไปเลย จากแค่คิดว่าโรงแรมนี้แค่ทำให้ดูเหมือนญี่ปุ่น แต่ไม่ใช่แค่สวย เพราะเค้าได้ใส่ความตั้งใจ และนำเอา Culture วัฒนธรรมมาสู่การบริการ การใส่ใจ,Service Mind, การเชื่อมโยงธรรมชาติ, การพักผ่อนและเรื่องของการทำอาหาร
ถ้าเรามองให้กว้างเชื่อว่า จะตอบโจทย์คนไทยหลายคน ที่ยังไม่เคยมีโอกาสไปญี่ปุ่น บางคนอยากพาพ่อแม่ไปแต่ติดเรื่องความไม่สะดวก การเดินทางที่ยาวนาน ผมเองยังคิดเลยว่าถ้าพาครอบครัวมา คงเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่พ่อแม่เราน่าจะประทับใจ
แนวความคิดความยั่งยืน การลดการใช้พลาสติก,การปลูกผักไส้สารพิษ, การเลือกจ้างคนในพื้นที่และการสนับสนุนอุดหนุน วัตถุดิบจากพื้นที่โดยรอบ
นอกจากช่วงฤดูหนาวของเชียงใหม่ ช่วงที่น่ามาคือ ปลายฝนต้นหนาว จะมีหมอกเยอะอากาศดี และเรทห้องพักคุ้มค่า
ขอชื่นชมการบริการของพนักงาน ที่บริการผู้เข้าพักทุกคนเหมือนกัน โดยผมประทับใจตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตอบ Chat ตั้งแต่ทำการจอง รู้สึกว่าเค้าบริการและดูแลเราดีมากๆ
ห้องพักมีหลากหลายรูปแบบ แนะนำเพื่อนๆขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้เลย
สามารถจองห้องพักหรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมของโรงแรมได้ที่ www.onsenmoncham.com
หากเพื่อนๆชอบรีวิวนี้ อย่าลืมให้กำลังใจผู้เขียนโดยการช่วย Share ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
Surfer's Holiday