รีวิวโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ทริปเชียงใหม่ใจดี 2024
ไม่ได้กลับมาเที่ยวเชียงใหม่หลายปี การเดินทางมาเที่ยวครั้งนี้ ผมเลยเลือกที่อยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวโดยเลือกพักโรงแรมใหม่ๆที่น่าสนใจ และใช้เวลาท่องเที่ยวในเมืองที่ 'กึ้ดเติง' บรรยากาศและความทรงจำเก่าๆมานานแสนนาน
ผมเลือกพักที่โรงแรม Meliá Chiangmai แอบตื่นเต้นในการทำความรู้จักกับ Meliá โรงแรมเชนจากสเปนที่ช่วงเวลาที่ผ่านมาเติบโตในประเทศไทยค่อนข้างเร็ว โดยมีอยู่หลายจังหวัดเช่น สมุย,ภูเก็ต และที่กรุงเทพ (INNSiDE Bangkok Sukhumvit) ซึ่งมีเพื่อนๆหลายคนไปพักแล้วกลับมาเล่าให้ฟังถึงความประทับใจ
Melia เป็นแบรนด์สัญชาติสเปนซึ่งนำเสน่ห์ของความอบอุ่นของครอบครัว การให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตและการพักผ่อนมาเป็น Key หลักของโรงแรม โดยโรงแรมในเครือจะถูกแบ่งย่อยดังนี้ Gran Meliá (luxury), Meliá Hotels & Resorts (upscale), ME by Meliá (lifestyle), and INNSiDE by Meliá (mid-scale)
มาเล่าถึง Meliá เชียงใหม่กันดีกว่า เหตุผลที่เลือกพักที่นี่
โรงแรมพึ่งเปิดมาไม่นาน ( เปิดเดือนเมษายนปี 2022 )
รอบโรงแรมมีร้านคาเฟ่ บาร์ที่กำลังได้รับความนิยม เดินได้
โรงแรมเองมี Roof Top Bar ที่เห็นวิว 360 ของเมืองเชียงใหม่
ชอบการออกแบบของโรงแรมที่ผสมผสานเอาวัฒนธรรมเข้ามาแต่ดูสมัยใหม่ กลมกลืนไปกับการใช้ชีวิต และดูสวยงาม
Meliá Chiangmai มีทั้งหมด 22 ชั้น โดยมีห้องรับรองพิเศษอยู่บนชั้นที่ 21
ครั้งนี้ผมจองเป็นห้อง The Level Premium Room เมื่อมาถึง เลยสามารถขึ้นไปเช็คอินได้ที่ The Level Lounge ได้เลยครับ ซึ่งเมื่อมาถึงก็จะมีบริการเครื่องดื่มและขนมให้ด้วย
จากเลาจน์ที่เรานั่งรอก็สามารถมองเห็นวิวความสวยงามแม่น้ำปิงและอีกด้านก็จะเป็นวิวของดอยสุเทพ ซึ่งบริเวณโซนขวาของเลนจน์จะเป็นร้านอาหารดินเนอร์ของโรงแรม ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ (Mai Restaurant and Bar) และชั้นบนจะเป็น Bar ชมวิวที่สูงที่สุดของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งสามารถเห็นวิวได้แบบ 360 องศา
ผู้อ่านสามารถกดเลื่อนดูรูปได้ โดยสังเกตุจากสัญลักษณ์ลูกศรของขวามือบนรูปนะครับ
ระหว่างที่รอเช็คอิน เลยแอบเดินมาดูรายละเอียดของการออกแบบของโรงแรม ซึ่งโรงแรมแอบนำเอาศิลปะและวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่ มานำเสนอแบบร่วมสมัย ซึ่งไม่น่าเบื่อ ไม่เชย แต่สวยงามและน่าสนใจ มาลองดูกันครับ
สิ่งที่ทุกคนจะต้องสัมผัสได้ คือประตูโค้งสำหรับทางเดินไปขึ้นลิฟท์ ซึ่งจุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) สถานที่ที่นักท่องเที่ยวรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งผมเองเคยมีโอกาสไปเที่ยวในทริปก่อน ทำให้รู้สึกนึกถึงเลยครับ
ใครที่อยากรู้ว่าวัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) เป็นยังไง ทำไมคนถึงนิยมไปเที่ยว สามารถเดินทางจาก Meliá Chiangmai ขับรถไปแค่ประมาณ 20-25 นาทีเองครับ ระยะทางประมาณ 8.5 กิโล
บริเวณต่างๆของโรงแรมก็จะมีดีเทลเล็กๆน้อยๆซ่อนอยู่มากมาย อย่างเช่น เครื่องสานต่างๆ ลายตามผนังหรือบริเวณลิฟท์ ใกล้ๆบริเวณลอบบี้จะมี Ruen Kaew Lounge บาร์กาแฟและเครื่องดื่มนี่น่านั่ง แอบเห็นว่าเค้ามี เครื่องดื่มๆชากับของหวานที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลอีกด้วย อย่างช่วงที่ผมไปจะเป็นพุดดิ้งลำไยน่าทานมากๆ
มาดูในส่วนของห้องพักกันบ้างครับ ห้องพักที่นี่มีหลาย Room Type ให้เลือก
ห้องมีเลีย (Meliá Room) ห้องเริ่มต้นของโรงแรมมีขนาด 30 ตารางเมตร ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่ผมชอบมากที่สุดครับ เนื่องจากปกติชอบห้องที่มีโทนสว่าง ห้องอาบน้ำสว่าง ทุกห้องจะมีโซฟาที่นั่งสบายๆ โดยห้อง Meliá Room จะเป็นวิวเมือง ห้อง Deluxe Room จะเป็นห้องวิวสระว่ายน้ำโรงแรมและมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิดหน่อยครับ
ห้อง เดอะเลเวล สวีท (The Level Suite) ห้องขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 62 ตารางเมตร โดยจะเพิ่มเป็นโซนนั่งเล่นที่มีสัดส่วนชัดเจน และมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถแช่พร้อมกันสองคนได้ครับ
ส่วนห้องที่ผมนอน ด้วยที่ครั้งนี้มาเที่ยวกัน 3 คนทำให้เลือกจองเป็นห้องนี้ ห้องพรีเมี่ยม (Premium Room) ห้องนี้จะมีโซฟาและกระจกเห็นวิวที่กว้างมากกว่า มีขนาดห้อง 44 ตารางเมตรครับ ซึ่งที่นี่จะไม่ใช้เตียงเสริมนะครับ สามารถนอนที่โซฟายาวโดยมีท๊อปเปอร์รองให้อีกชั้น นอนสบายเช่นกัน
ห้องเป็นอย่างไรบ้าง
ชอบที่ห้องใช้โทนสีสว่าง อบอุ่นและไม่อึดอัด
เตียงนอนสบายมากๆ หมอนเกรดดี
ชอบที่ Melia ใช้ลายสีน้ำใส่ไปในดีเทลต่างๆของห้องเช่นกระดาษป้ายต่างๆ หมอน รวมไปถึงกล่อง Amenity ต่างๆ
ห้องน้ำ น้ำแรงมากๆ ชอบกลิ่นของสบู่แชมพูที่กลิ่นให้ความสดชื่น
รอบโรงแรม Meliá Chiangmai มีร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร และบาร์ที่น่าสนใจเยอะมากๆ เพราะฉะนั้นพักคืนเดียวอาจจะไม่พอ เราขอแนะนำ บางร้านที่เราได้มีโอกาสไปมาให้ครับ
01
SELF CAFE
ร้านกาแฟในตึกตรงข้ามโรงแรม Meliá กาแฟอร่อย
02
THE A TER
คาเฟ่และร้านอาหารที่ช่วงกลางคืนมีวงดนตรี Jazz/Pop เดินไปนิดเดียว
03
NIOR CNX
บาร์คอกเทล มีวง Jazz เล่น Negroni ดีมากๆ
ไปเดินเที่ยวดูรอบโรงแรมกันครับ ผมคิดว่าอันนี้สายครอบครัวต้องชอบ ที่ Meliá Chiangmai เค้ามี Kids Club ใหญ่มาก คิดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ ซึ่งเค้าแบ่งเป็นสัดส่วนห้องกิจกรรมดีมากๆ มีห้องอ่านหนังสือ ห้องใช้คอมพิวเตอร์สำหรับน้องๆที่อาจจะต้องเรียนออนไลน์ ห้องสมุด,ห้องทำกิจกรรม Workshop, มุมแต่งตัวเป็นการตูนฮีโร่ต่างๆ และยังมีห้องให้น้องๆได้ Nap กลางวันกันด้วย
อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดหวัง แต่เมื่อมาเข้าพักที่ Meliá Chiangmai แล้วชอบมากๆคือสระว่ายน้ำ โรงแรมเลือกใช้อิฐสีส้ม คู่กับหมอน Melia สีเขียวเป็นคู่สีที่สวยงาม
เดินเที่ยวเมืองมาเหนื่อยๆ ตัวเปียกเหงื่อ ตอนบ่ายเลยชวนกันมาว่ายน้ำนอนชิลที่สระ บรรยากาศดีมากๆ ที่นี่ยังมีฟิตเนส ที่เดินเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ
และสามารถออกกำลังกายและเห็นวิวสระว่ายน้ำอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่ทำให้โรงแรม Meliá Chiangmai แตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ คือมี Sky Bar ที่อยู่สูงที่สุดในเมืองและสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา Mai The Sky Bar
Mai The Sky Bar อยู่บนเหนือชั้น 21 ที่เป็นที่เช็คอิน The Level ในวันนี้และยังเป็นห้องอาหาร Mai Restaurant & Bar ด้วย ขึ้นมาแล้วก็ต้องยอมรับวิวโรงแรมเขาจริงๆครับ มีทางเดินกระจกด้านบนให้เราเดินชมวิวแบบ 360 องศาและยังเป็นมุมถ่ายรูปบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย
คืนนี้เรามีนัดทานอาหารกันที่ Mai Restaurant เลยลองสั่งเครื่องดื่มและของทานเล่นรองท้องกันครับ
เครื่องดื่ม Cocktail เรียงตามนี้เลย
01
Bartenders Tailored
Bosque De Chiang Mai ( Whisky,Cinnamon, Cranberry Juice,Lime, Honey, Pasteurized white egg )
ราคา 350++
02
Classic Spanish Cocktail :
Agua De Valencia ( Cava, Triple Sec,Orange Juice, Syrup )
ราคา 300 ++
03
Bartenders Tailored
El Agave ( Tequila,Triple Sec, Pineapple Juice, Aloe vera Juice, Lime Juice, Agave Syrup)
ราคา 350++
ส่วนอาหารที่สั่งบน Sky Bar มีดังนี้ครับ
01
Tableros :Artisan Cheese Board
ที่สามารถเลือกชีสจากเชียงใหม่ได้ทั้งหมด 3 อย่างโดยมีดังนี้ Forest Tail, Palazzo di Palma, Ricotta Affumicata, Saltara , San Paquanburie
San Paquanburie ตัวนี้อร่อยสุดครับเป็น Brie Cheese อ่านตั้งนานนึกว่าเป็นภาษาอิตาเลี่ยนแต่จริงๆคือ ชีสสันผักหวานบุรี ชีสที่มาจาก ตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยคุณ เส-จารุทัศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา * ไปหาข้อมูลมาจนเจอหากผิดพลาดขออภัยด้วยครับ
02
Mixed Grill Skewers
ราคาไม่แพงไม้ละ 100 บาทเท่านั้น
03
Sweet Potato Fries
มันเทศเสิร์ฟพร้อมกับซอสฮูมมูสและเพสโต้มะเขือเทศ ซอสอร่อยครับผมชอบมาก เผลอทานจนหมดเกลี้ยง
ชอบการใส่ใจของ Melia ที่แอบมีสัญลักษณ์ของพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งสามารถสแกน QR เพื่ออ่านข้อมูลได้อีกด้วย อันนี้น่ารัก
ไปกันต่อที่ห้องอาหาร Mai ครับ ตอนวันเราได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ แต่ตอนกลางคืนก็เปลี่ยนไปคนละ Mood เลย จากโต๊ะทานข้าวได้เห็นเมืองเชียงใหม่แบบในภาพ อันนี้ต้องขอแนะนำว่า ควรจองโต๊ะล่วงหน้า วิวที่ได้เห้นระหว่างทานข้าวสวยโรแมนติกมาก ครั้งหน้าต้องมากับแฟนเท่านั้น : )
พนักงานบริการดีมากๆ แม้วันนั้นคนค่อนข้างเยอะ พวกเราได้สั่งอาหารดังนี้ครับ
01
ปูซ่อนกลิ่น - เป็น Amuse-bouche เริ่มต้นของมื้อนี้
02
จานออเดริฟรวม - เรียงจากคำแรก ปลาดุกฟูเสิร์ฟมาในใบชะพลู,สลัดโรลดอกไม้ ด้านในเป็นหมูยอซอสมะขาว, หนังปลาแซลมอนทอดกรอบด้านบนเป็นน้ำพริกหนุ่ม,ไส้อั่วเสิร์ฟมาด้วยขิงย่างอินฟิวส์แตงกวา, ตอติญ่าน้ำพริกอ่อง
03
ยำส้มโอน้ำปู๋ปูนิ่มทอดกรอบ - ภายในเป็นยำส้มโอรสจัดใส่งาขาว มะพร้าวคั่ว
04
ข้าวแคบห่อกุ้ง - ด้านในเป็นกุ้งลายเสือเส้นหมี่ขาว
05
แกงผัดหวานออนท๊อปมาด้วยปลาแห้ง ราดซุปกงซูเม่
06
ต้มจิ๋วเนื้อนมสด - แกงไทยโบราณ รสคล้ายต้มยำแต่ใส่เป็นใบโหระพาและกะเพรา ( ไม่มีภาพ )
07
ฮังเลหมู ลูกแพรตุ๋นไวน์ขาว - เสิร์ฟมาด้านข้างด้วยผักดองโฮมเมดไว้แก้เลี่ยน
08
พาสต้าซอสข้าวซอย- ซอสข้าวซอยแบบเข้มข้นกับเนื้อเซอร์ลอยลนไฟ เส้นเด้งกำลังดี
09
แซลมอนแพนเซียร์ - ด้านบนเป็นน้ำพริกอ่องของเชียงใหม่ เสิร์ฟมาคู่กับผักเชียงดาน้ำมันหอยด้านล่างเป็นข้าวสวยกลิ่นใบเตย
และปิดท้ายด้วยของหวาน ที่อร่อยจนไม่มีโอกาสได้ถ่ายภาพครับ สำหรับ 3 เมนูที่ผมชอบมากที่สุดคือ แกงฮังเลเนื้อหมูนุ่มมากแกงรสชาติดี, แซลมอนแพนเซียร์กับน้ำพริกอ่องเข้ากันได้ดีแบบไม่น่าเชื่อ และสุดท้ายพาสต้าซอสข้าวซอยอร่อยแบบลืมข้าวซอยเดิมๆไปเลย
ห้องอาหาร Laan Na Kitchen เป็นห้องอาหารที่ให้บริการอาหารเช้า ชอบการออกแบบห้องอาหารที่ใช้โทรสีขาวตัดกับไม้ เนื่องจากตอนเช้าห้องอาหารนี้แสงจะเข้าถึงค่อนข้างมากๆ ทำให้ดูสวยงาม โรงแรมได้ซ่อนการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากล้านนามากมาย อย่างเช่นเคาต์เตอร์อาหารที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขั้นบันได แผ่นรองโต๊ะก็มาจากวัสดุที่ผลิตด้วยคนท้องถิ่น ผนังและเพดานเต็มไปด้วย เครื่องจักสานต่างๆ ที่งดงามและดูกลมกลืนเข้ากันดี แบบที่ทุกอย่างถูกคิดและออกแบบมาแล้ว
สะดุดตากับมุมของสลัดที่เค้านำผักมาจาออริจิ้น เดอะกัวร์เม่ ฟาร์ม (ORI9IN The Gourmet Farm) ฟาร์มออร์แกนิคในเขตอำเภอสันทรายซึ่งเป็นผักไร้สารพิษและทางโรงแรม Meliaส่งเศษอาหารที่เหลือจากการปรุงอาหาร กลับคืนสู่ฟาร์มเพื่อทำเป็นปุ๋ยหมักอีกด้วย
สำหรับอาหารเช้า มีจุดเด่นดังนี้
Meliá เป็นโรงแรมจากสเปนจึงมีเมนูอาหารเช้าสเปนด้วย อย่างเช่น Spanish Omelette
มีเสิร์ฟไส้อั่วและข้าวซอย ( ข้าวซอยเข้มข้นอร่อยมาก )
โรงแรมทำขนมปังเอง มีตัวเลือกให้ค่อนข้างเยอะ
เครื่องคั้นนำส้มอัตโนมัติ ส้มหวานมากๆ อันนี้ผมแฮปปี้มากดื่มทุกเช้าเลย
สำหรับทริปนี้ผมคิดว่า ตัดสินใจไม่ผิดในการเลือกพักที่โรงแรม Meliá Chiangmai เป็นที่แรก เพราะทั้งได้
เต็มอิ่มกับวิวของเมืองเชียงใหม่จาก Mai Sky Bar ตั้งแต่วันแรกแล้ว
โรงแรมอาหารอร่อยฟิวชั่นได้ดี
สถานที่ตั้งใกล้ที่เที่ยวร้านต่างๆเดินได้สะดวกไม่ต้องขับรถ ดื่มได้เต็มที่
นอนหลับสบาย ชอบเตียงมากๆ
เหมาะสำหรับคนที่ชอบพักผ่อนสบายๆ และเหมาะมากๆสำหรับครอบครัวที่มีเด็กครับ
สุดท้ายการเปิดประตูการได้พักผ่อนที่ Meliá Chiangmai เป็นครั้งแรก ทำให้รู้สึกอยากไปพัก Melia ที่อื่นๆเลย ตกหลุมรักแบรนด์แล้วนะครับ
สำหรับใครที่สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของโรงแรม สามารถติดต่อสอบถามหรืออ่านข้อมูลได้ที่ www.melia.com/th/hotels/thailand/chiang-mai
MELIA CHIANGMAI
46, 48 ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง เชียงใหม่ ประเทศไทย
Chang Khlan, Thailand
โทร +66 52 090 699
หากเพื่อนๆชอบรีวิวนี้ อย่าลืมให้กำลังใจผู้เขียนโดยการช่วย Share ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
Surfer's Holiday