ศรีลังกาเป็นประเทศที่เที่ยวสนุกมาก ผมมีโอกาสบินมาเที่ยวช่วงเดือนธันวาคม เมื่อหลายไปีก่อนและรู้สึกว่ายังไงก็ต้องกลับมาซ้ำให้ได้ ถ้าพูดถึงศรีลังกา ใครหลายคนก็อาจจะนึกภาพถึงความคล้าย อินเดีย จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ ศรีลังกามีความเป็นเมืองพุทธที่มีวัฒนธรรมผสมผสาน ทำให้ทั้งวิถีชีวิตและบ้านเมืองของศรีลังกาไม่ได้เหมือน อินเดีย ไปซะทีเดียว
ศรีลังกาเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะครับ มีประชากรประมาณ 22 ล้านคน และมีพื้นที่เล็กกว่าประเทศไทยถึง 7 เท่า ทำให้การเดินทางไปแต่ละภาคของประเทศไม่ไกล โดยที่ศรีลังกามีชายฝั่งทะเลรอบประเทศ
เมืองหลวงของศรีลังกาคือโคลอมโบ ( Colombo ) ซึ่งอยู่ติดกับทะเล ชื่อของเมืองจริงๆมาจากภาษาสิงหลเดิมว่า โกโลนโตฏะ และถูกชาวโปรตุเกสเรียกเพี้ยนมาเป็น โกลงบู
ศรีลังกาเคยตกอยู่ในความครอบครองของโปรตุเกสและเนเธอแลนด์ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เมืองหลวงมีตึกและสถาปัตยกรรมต่างๆที่สวยงาม
เตรียมตัวมาเที่ยวศรีลังกา อ่านนี่เลย
Exchange แนะนำแลกเป็นเงินดอลลาร์และสามารถแลกเป็นเงินศรีลังการูปี ( LKR ) ที่สนามบินเรทเท่ากันทุกร้าน
Time Zone ศรีลังกาเวลาช้ากว่าไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที
Transport ในเมืองเราสามารถเดินทางได้โดยตุ๊กๆเหมือนในไทย ราคาถูก ( สามารถใช้ App Pick Me ) สะดวกมาก หากต้องการไปเมืองต่างๆ สามารถไปได้โดยรถไฟหรือเหมารถส่วนตัว
People คนศรีลังกาน่ารักมากๆ ยิ่งบอกว่าเรามาจากไทย เค้าพูดว่า Nice Country Nice People ประชากรที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธและมีสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทย
E-Visa มาเที่ยวศรีลังกาจำเป็นต้องทำวีซ่า แนะนำทำ E-Visa จะได้รับภายใน 24 ชั่วโมงเร็วมากๆ ทำเสร็จเดินผ่าน IMM สบายเลย ผมรวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว อ่านที่นี่เลย
Where to go? ออกจากโคลัมโบมีที่เที่ยวเยอะมากๆ เช่น Galle Forte เมืองเก่าป้อมปราการที่เต็มไปด้วยร้านสวยๆ, Kandy เมืองบนหุบเขาที่อากาศเย็นสบายๆ ควรไปด้วยรถไฟซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นเส้นทางรถไฟสวยอันดับโลก, อุทยาน Yala ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่า ทั้งเสือ จระเข้ ช้างและสัตว์อื่นๆอีกมากมาย, พระราชวังลอยฟ้าสิกิริยา วิหารลอยฟ้าที่ต้องเดินขึ้น 2000 ขั้นวิวปังมาก, เที่ยวเมืองน้องๆของบาหลี Weligama กับ Arugambay เมืองโต้คลื่นที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยววัยรุ่น
เราเดินทางมาโดยสายการบินแอร์เอเชีย บินตรงจากดอนเมือง ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงนิดๆ ไฟล์ตถึงประมาณ 4 ทุ่มครับ จากแพลนครั้งนี้เราเลยตัดสินใจ จองโรงแรมที่ดูสบายหน่อยจะได้นอนได้เต็มที่ เพราะเราจะเที่ยวในโคลอมโบเพียง 1 วันและหลังจากนั้น เราจะขับลดลัดเลาะไปเที่ยวเมืองทะเลครับ ซึ่งเพื่อนๆสามารถรออ่านได้ในลำดับถัดไป
โรงแรมที่เราจองไว้ชื่อว่า Granbell Hotel Colombo ราคาต่อคืนเกือบสองพัน ไม่รวมอาหารเช้า จองจาก Agoda จริงๆภาพในเวบรู้สึกแค่ว่าโอเค แต่มาของจริงๆ ว้าวอยู่นะ ห้องที่ได้ถึงเพดานสูงเว่อร์มาก ห้องน้ำก็ใหญ่ และมีหน้าต่างบานใหญ่มากๆเปิดออกไปมองเห็นทะเล
โรงแรมตั้งอยู่ใกล้ๆทะเลเลย ซึ่งความปังอยู่ที่ มี Rooftop ที่สระว่ายน้ำเป็นวิวขนาบกับทะเล มีแต่ฝรั่งอาบแดด เต็มไปหมด ชอบมาก เตียงดี นอนหลับสบายเลย
เนื่องจากเรามีเวลาเที่ยวใน 1 วัน จึงโหวตกับเพื่อนๆและมีโอกาสได้ไปเที่ยวดังนี้
1 Cafe Kumbuk คาเฟ่ที่ผมเคยมาตั้งแต่ครั้งก่อน แต่ปีนี้เค้าได้ย้ายมาที่ใหม่ ซึ่งด้านบนเป็นที่พักชื่อว่า Srilax ห้องน่ารักมากๆ มีเพียง 4-5 ห้อง ราคาประมาณ 1200-1500 บาท
คาเฟ่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ถนนใหญ่ แต่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย มีเมนูอาหาร กาแฟและชาต่างๆ มีมุมเล็กๆที่ขายของ เสื้อผ้า น่ารักดี
Location : https://goo.gl/maps/1c5MHk6hZPYGGomw9
ไม่ไกลมาจากคาเฟ่ เรา Search Google Map เจอ Colombo National Museum ซึ่งเป็นอาคารสีขาวดูสวยดี เลยลองไปเที่ยวดูครับ
Colombo National Museum เป็นตึกเก่าที่ก่อสร้างเมื่อปี 1877ในสไตล์อิตาลี ซึ่งมีการจัดแสดงเรื่องราวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของศรีลังกา โดย ข้างในมีแสดงของโบราณกว่า 1000 ชิ้น แอบขนลุกในโซนหน้ากากโบราณ
Location : https://goo.gl/maps/SGhnMcsFHqZj2Qqz6
ผมค่อนข้างจะชอบเข้าพิพิธภัณฑ์ตามประเทศต่างๆ เพราะยิ่งเรารู้ประวัติศาตร์ของประเทศนั้น จะทำให้เรายิ่งเที่ยวสนุกและเข้าใจประเทศนั้นมากขึ้นครับ
ที่ต่อไปเป็นที่ฮอตฮิตมากๆสำหรับชาว Instagrammer คือมัสยิดสีลูกกวาด หรือ Jami Ul Alfar Mosque ของจริงค่อนข้างใหญ่ มีขนาดถึง 6 ชั้น เนื่องจากเป็นสถานที่พิธีกรรมจึงคิดว่าเราควรถ่ายรูปจากด้านก็พอแล้วนะครับ มุมถ้ารูปมี 2 ฝั่ง ลองเดินเล่นและถ่ายกันดูนะครับ และรอบๆเป็นย่านการค้าที่เต็มไปด้วยของกินและผลไม้ราคาถูกมาก
Location : https://goo.gl/maps/i4b83TLsUnRGLmcb6
สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปสตรีท โซนนี้ถ่ายสนุกมาก เพราะทุกอย่างเป็นสีสันไปหมด
อีกสถานที่ ที่ครั้งก่อนผมยังไม่ได้แวะไปเที่ยว และครั้งนี้ตั้งใจไปคือ Dutch Hospital
Old Colombo Dutch Hospital หรือเรียกสั้นๆว่า The Dutch Hospital ที่นี่เริ่มต้นคือเป็นโรงพยาบาลที่ชาวดัตช์ ( ชาวเนเธอแลนด์ ) ใช้รักษาหรือพักระหว่างการเดินเรือ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นศูนย์การค้าและศูนย์รวมร้านอาหาร
มาแล้วเจอกับร้านอาหาร Ministry Of Crab คิดไปคิดมาก็นึกขึ้นได้ว่า ศรีลังกาขึ้นชื่อเรื่องปูยักษ์และร้าน Ministry Of Crab ที่เคยดังที่กรุงเทพมีต้นกำเนิดจากที่นี่ ผมก็เลยมองหน้าเพื่อนๆและตัดสินใจลองทานที่นี่กัน
สำหรับประสบการณ์ทานอาหารที่ Ministry Of Crab ที่นี่ค่อนข้างน่าประทับใจ ด้วยร้านที่อยู่ในตึกสวย บริการค่อนข้างเป๊ะ ปูเนื้ออร่อยมากครับ ราคาอาจจะสูงนิด ค่าเสียหายรวมแอลกอฮอล์ตกคนละ 1600-1800 บาท
จริงๆผมได้ไปเที่ยวมาหลายๆที่เลย แต่คัดเลือกมาเฉพาะที่เที่ยวง่ายๆให้เพื่อนๆได้ลองตามไปเที่ยวกันนะครับ สุดท้ายของวันนี้ในโคลอมโบ ผมเลือกที่จะไปเที่ยว Galle Face Green สนามหญ้ารมชายหาดที่ยาวเกือบกิโลเป็นมุมพระอาทิตย์ตกที่คนที่นี่ชอบมานั่งดูกัน ตลอดทางมีอาหารทะเลทอดกรอบ ขนมต่างๆวางขาย พระอาทิตย์ตกสวยมากๆ และหันไปอีกทางเรายังมองเห็น Colombo Lotus Tower ตึกรูปดอกบัวที่เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆอีกด้วย
การเที่ยวในโคลัมโบเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และทำให้ผมคิดถึงตอนที่ Backpack มาครั้งแรกมากๆ นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเที่ยวศรีลังกา คอนเทนต์หน้าเราจะพาทุกคนไปโต้คลื่นทะเลศรีลังกากันครับ ฝากติดตามกันด้วยนะ
สามารถติดตามผมได้ ขอฝากอีกช่องทาง www.instagram.com/tah_surferday
เขียนโดย : Surfer's Holiday
ภาพโดย : Onedayasurfer
'เที่ยวโคลัมโบง่ายกว่าที่คิด เที่ยวง่าย ราคาประหยัด
บินตรงสู่โคลัมโบ ประเทศศรีลังกากับแอร์เอเชีย ปลอดภัยและตรงเวลา
บินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ โคลัมโบ เริ่มต้นที่ 3,090 บาท* (เที่ยวเดียว)'
👉จองเลยที่ www.airasia.com
📍จองเลย: 31 ส.ค. 2566 - 30 ก.ย. 2566
✈️เดินทาง: 4 ก.ย. 2566 - 29 มี.ค. 2567